กปน. เผย ผ่านวิกฤติน้ำทะเลหนุน ฝนมากกว่าปีที่ผ่านมา แม้น้ำไม่ขาดแคลน แต่ขอความร่วมมือใช้น้ำอย่างประหยัด
นายรักษ์ศักดิ์ สุริยหาร รองผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) เปิดเผยว่า จากการบูรณาการข้อมูลร่วมกับกรมชลประทาน และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) พบว่าสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูง ณ สถานีสูบน้ำดิบสำแล อ.เมือง จ.ปทุมธานี คลี่คลายลง เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีนี้ ประเทศไทยมีสภาพอากาศแปรปรวนจากปรากฏการณ์ "ลานิญา” ทำให้มีปริมาณฝนตกมากกว่าค่าปกติ 107 % (ข้อมูลจากกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ 11 เมษายน 2565) และขณะนี้ มีปริมาณน้ำต้นทุนใน 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา 10,550 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 42 % (ข้อมูลจากกรมชลประทาน 20 เมษายน 2565) ทั้งนี้ ตลอดช่วงระยะเวลาของฤดูแล้งปี 2565 กปน. ยังสามารถควบคุมสถานการณ์ความเค็มรุกล้ำจุดรับน้ำดิบได้อย่างต่อเนื่อง โดยการบริหารจัดการช่วงเวลาสูบน้ำดิบเพื่อหลีกเลี่ยงน้ำดิบที่มีลิ่มความเค็มสูง รวมทั้งบูรณาการความร่วมมือกับกรมชลประทาน ปฏิบัติการ Water Hammer Operation (กระแทกลิ่มความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยา) เพื่อผลักดันลิ่มความเค็มให้ห่างจากสถานีสูบน้ำดิบสำแลมากที่สุด โดยปฏิบัติการครั้งสุดท้ายของปีนี้ ระหว่างวันที่ 20 – 23 เมษายน 2565 ทั้งนี้ กปน. ยืนยันยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำและควบคุมการผลิตน้ำประปาตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลกอย่างเคร่งครัด และเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำหลากที่มีโอกาสเกิดขึ้นในช่วงฤดูฝนอีกด้วย กปน. ขอขอบคุณ สทนช. กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ช่วยให้ กปน. สามารถบริหารจัดการน้ำให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนให้น้อยที่สุด ทั้งนี้ แม้สถานการณ์คุณภาพน้ำโดยรวมจะดีขึ้น แต่ กปน. ขอความร่วมมือประชาชนร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัดและรู้คุณค่าต่อไป เพื่อสงวนน้ำต้นทุนไว้ให้ทุกภาคส่วนใช้อย่างเพียงพอ ทั้งในปีนี้และปีต่อ ๆ ไป